บางคนก็ทราบกันแล้วว่า ตูน บอดี้สแลม ทำไมถึงมาตีปิงปอง แต่บางคนก็ยังไม่ทราบกัน ในวันนี้เราจึงนำบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับปิงปอง ของ พี่ตูน บอดี้สแลม มาฝากกันค่ะ

เริ่มเข้ามาในวงการปิงปองเมื่อไหร่ค่ะ?
จริงๆ ผมตีปิงปองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ตั้งแต่ประถมสมัยอยู่สุพรรณบุรี ตั้งแต่ ป.5 ป.6 ก็แข่งชิงแชมป์ประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้ฝีมือดีอะไร ก็คือตีเป็นงานอดิเรก เป็นกิจกรรมของเด็กๆ ก็แข่งขันบ้างก็เหมือนเราได้ออกกำลัง

อะไรเป็นแรงจูงใจให้มาแข่งปิงปอง?
คือผมก็ได้ห่างจากปิงปองไปเลย ช่วงเรียนมหาลัย ตอนนั้นจำได้ว่าแมทที่แข่งขันที่จริงจังก็สมัยเรียนที่จุฬาฯ มันเป็นกีฬาระหว่างคณะ ผมได้เหรียญเงิน นั่นเป็นแมตช์สุดท้ายของการตีปิงปองอย่างจริงจัง แบบไม่มีโค้ช เราก็ตีของเรามาคนเดียวตลอด

ใครเป็นไอดอลของเราในกีฬาประเภทนี้?
ผมก็ไม่ค่อยได้คอยติดตามพวกระดับโลกอะไรครับ คือถือว่าเราตีออกกำลัง ตีเอาสนุก แบบว่าเป็นพวกนันทนาการ สรรทนาการ อะไรอย่างนี้มากกว่า ช่วงเรียนมหาลัย ผมก็ไม่ค่อยได้ตีเลย จนช่วงที่ผมมีปัญหาเรื่องกระดูกคอ ช่วงก่อนขึ้นเล่นคอนเสิร์ต LIVE IN คราม ที่ราชมังฯ ตอนนั้น ก็ถึงต้องเข้าโรงพยาบาล ป่วยหนักเลยตอนนั้น คือหมอนรองกระดูกมาทับเส้นประสาท มันทำให้คุณหมอเค้าห้ามผมเตะฟุตบอล คือผมออกกำลังกายด้วยการเตะฟุตบอลมาตลอด หลังจากไม่ได้ตีปิงปองก็มาเตะฟุตบอล คือผมชอบเตะบอลมาก แต่ว่าหมอห้าม หมอห้ามปะทะ หมอห้ามโหม่งบอล คือมันจะทำให้อาการมันไม่ดี มันอาจจะเป็นอัมพาตได้ ถ้าจังหวะเราไม่ดี เอาแล้วที่นี้เราจะทำยังไง เราออกกำลังมาตลอด ทีนี้เตะบอลไม่ได้ ผมก็เลยกลับมาคิดว่าผมไม่ได้เตะบอล ผมจะทำอะไร ก็ช่วงนั้นก็วิ่งอย่างเดียว วิ่งบนสายพาน เข้ายิมฯ นิดหน่อย มันก็น่าเบื่อ สุดท้ายก็คิดได้ว่า เฮ้ย นี่ไงเราเคยเล่นปิงปอง เราเคยมีเบสิกอยู่บ้าง

นานมั้ยกว่าจะกลับมาตีได้ดีถึงขนาดนี้?
ก็นานอยู่นะครับผม ก็ตอนนั้นกลับบ้านไปดูไม้ที่เคยเอามาตี เชื่อมั้ยว่าไม้ที่ผมไม่เคยถอดหนังออกมาดู หนังมันก็แห้งติดไม้จนไม่มันพังจนใช้ไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องหาไม้ใหม่ ก็หาข้อมูล ไปเจอร้านขายอุปกรณ์ปิงปองแถวๆ กกท.หัวหมาก ก็ไป นั้นแหละคือจุดเริ่มต้น ทำให้รู้จักว่ามันมีทัวร์นาเมนต์ด้วย ในเมืองไทยก็ยังมีทัวร์นาเมนต์จัดแข่งอยู่ กติกาเปลี่ยนไป หลังจากตอนนั้นเราเล่น 21 แต้ม 2 ใน 3 ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาเป็น 11 แต้ม 3 ใน 5 อะไรอย่างเนี้ย

พอได้เริ่มแข่งขันก็มีความจริงจังมากขึ้น แล้วหาโค้ชมาจากไหน?
โชคดีที่ได้ไปเจอร้านอุปกรณ์กีฬาแถวหัวหมาก พี่ปกรณ์ เป็นเจ้าของร้าน เค้าก็แนะนำว่าเค้าก็มีเพื่อนอยู่ เค้าก็ถามผมว่าบ้านผมอยู่แถวไหน ผมก็บอกไปว่าบ้านผมอยู่แถวเส้นเกษตรฯ เค้าก็บอกว่าพอดีเลยมีเพื่อนเค้าเปิดยิมฯ ปิงปองอยู่แถวเสนาฯ ก็เข้าทางเรา ทีนี้เราก็ลองไป ไปคุยกับพี่เค้าแล้วถูกคอ ก็เลยให้พี่เค้าเป็นโค้ชให้เลย เค้าก็มาสอนเรา เริ่มกันใหม่หมดเลย เพราะเราร้างไปนาน โชคดีที่ได้เจอพี่แวน เค้าก็สอนผมเรื่องเบสิกใหม่ พี่เค้าก็คอยจับท่าให้เราเวลาเราตีผิดอะไรอย่างเนี้ย คือผมจะมีปัญหาแบ็กแฮนด์มาก คือผมก็กลับมาคิดว่าตอนนี้ผมอยากจะตีบุกบ้าง ไม่อยากตั้งรับกับแบ็กแฮนด์ เพราะผมมีปัญหาตรงนี้อยู่ แต่เราก็ยังปรับตรงนี้ไม่ค่อยได้ ลองสังเกตดีๆ ว่าแบ็กแฮนด์ผมจะบอดมาก ถ้าคนที่สังเกตผมดีๆ จะยิงใส่แบ็กแฮนด์ผมตลอด ผมทำได้อย่างดีก็ประคอง

ไม่กลัวเหรอค่ะว่าคู่ต่อสู้จะรู้ถึงจุดบอดของเรา ถ้าพูดออกไปอย่างนี้?
(หัวเราะ) ไม่หรอกครับ เพราะว่าผมก็ไม่ใช่นักกีฬาอาชีพ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมก็จะพัฒนาจุดบอดผมตรงนี้

เล่นคอนเสิร์ตก็ต้องซ้อมร้องเพลง แล้วเอาเวลาที่ไหนมาเล่นปิงปอง?
นั่นสิครับพี่ (หัวเราะ) จริงๆแล้ว วันนี้ต้องไปสุพรรณบุรี ไปเล่นคอนเสิร์ต ตอน 5 ทุ่ม ผมว่าทุกคนมีเวลาหมดสำหรับการออกกำลังกาย ผมเชื่ออย่างนั้นนะ คนที่ไม่ออกกำลังกายแล้วอ้างว่าไม่มีเวลาผมว่าไม่จริง มันมีเวลาของมันอยู่ กลางวันที่เราตื่นมา บางวันที่ไม่มีอะไรทำ นั่นแหละคือเวลาออกกำลังกาย

มีโต๊ะปิงปองให้ซ้อมอยู่ที่บ้านรึเปล่า?
อ่อ ไม่มีครับ พอดีโรงยิมฯ ของโค้ชอยู่ใกล้บ้าน พอตื่นมากินข้าวเสร็จ ผมก็ไปซ้อม อยู่โรงยิมฯ มันทั้งวันมันเป็นความสุขของเรานะ

แมตช์การแข่งขันแต่ละครั้งเรื่องค่าใช้จ่ายออกเองทุกครั้งหรือเปล่า?
มันก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมากครับ ก็ออกเองทุกอย่าง

แล้วกับทีม I.T.T.I THAILAND ที่เราอยู่เป็นยังไงบ้าง?
เราก็ตั้งมันขึ้นมาให้มีชื่อทีมในกลุ่มของเรา อย่างตอนที่แข่งคราวที่แล้ว เราก็ใช้ชื่อนี้ คือพี่แวนเค้าก็เล่าให้ผมฟังว่า เค้ามีเพื่อนชาวต่างชาติ เพื่อนเค้าก็บอกว่า มันมีกลุ่ม I.T.T.I อยู่ต่างประเทศ 2 ที่ คือกลุ่มนี้จะเป็นสถาบันสอนปิงปอง พัฒนาด้านปิงปอง เขาก็ขยายสาขามาในประเทศไทย

แฟนคลับรู้สึกอย่างไรที่มาตีปิงปอง?
เท่าที่ได้ยินมานะ พวกเค้าก็รู้สึกตื่นเต้นนะ เห็นเค้าก็ตื่นตัวเซอร์ไพรส์ว่าเราตีปิงปองด้วยเหรอ

แล้วแฟนคลับมาตีตามเราบ้างมั้ย?
ก็มีนะครับ ในบางกลุ่มเค้าก็ได้เริ่มสนใจมาตีปิงปองกัน ผมว่าก็ดีครับ อย่างน้อยก็เป็นการได้ออกกำลังกาย

แล้วตัวเรามองถึงว่าอยากจะเล่นถึงทีมชาติเลยหรือเปล่าค่ะ?
ไม่ครับ คือผมก็ไม่ได้หวังอะไรขนาดนั้น เราเล่นเพื่อออกกำลัง เราเอาเวลาว่างมาใช้ให้มันเป็นประโยชน์ เราไม่ได้มีเป้าหมายขนาดนั้นก็จริง แต่เราก็ทำมันอย่างจริงจัง ตอนซ้อมเราก็มุ่งมั่นจริงๆ มันจะพาเราไปสูงขนาดไหนก็แล้วแต่ มันจะพาเราไป

อยากทำทีมของเราเองขึ้นมามั้ย?
ตอนนี้ยังครับ แต่ในก็อนาคตไม่แน่ ถ้าเรายังสนุกกับมัน ถ้าทำตรงนั้นแล้วมันให้พลังงานกับเราได้ ให้ความสุขกับเราได้ ผมก็จะทำ แต่ถ้ามันทำแล้วกดดัน มันทำให้ชีวิตเราเครียด เราก็ไม่ทำ

มีโอกาสที่จะได้แต่งเพลงเกี่ยวกับวงการปิงปองบ้างมั้ยค่ะ?
(หัวเราะ) ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้ามันทำให้เรามีแรงบันดาลใจเราได้ เราก็จะทำ (หัวเราะ)